วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

ในดวงตาของฉัน

*สบตาฉันสิที่รัก มีไหมสักดอกไม้ให้เธอเห็น
ฉันรู้ว่ายังมีและยังเป็น มิวายเว้นเช่นนั้นเสมอมา
ยังหมายมอบปลอบใจของตัวเอง แม้นับวันยิ่งวังเวงมิรู้ว่า-
สองฟากฝั่งสูงชัน-วันเวลา มีไหมเล่าสักค่าการรอคอย
หรือเพียงแค่ดอกไม้ไว้ระลึก ให้รู้สึกบางเวลาเกินคว้าสอย
เพียงประดับประดาประดิษฐ์ประดอย ดอกไม้น้อยไว้ดูดดื่มแค่เด็ดดม
ซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่าเฉาโรยร่วง ห้ามลึกทรวงเช่นไรอย่าไห้ห่ม
แม้ดายเดียวเปลี่ยวเปล่าเศร้าโศกซม คงฝืนข่มจมค้างอยู่อย่างนั้น
จะเนิ่นนานเพียงใดไม่อาจรู้ ฉันจะอยู่อย่างไรในความฝัน
หลังหลับใหลในเกลียวคลื่นของคืนวัน กระหน่ำซัดหนาวสั่นมิรู้ชา
ดวงตาฉัน-เช่นไรแล้วที่รัก มีไหมสักความจริงอันเดียงสา
ที่ซมซบหลบเร้นเช่นนั้นมา มิรู้รา-คาค้างกลางเดือนปี
*สบตาฉันสิที่รัก เห็นไหมฝนที่หนักอยู่ที่นี่
แม้หลั่งสายครู่เดียวเสี้ยววินาที ก็ท่วมท้นล้นปรี่เต็มสองตา

กวีกระวาด/ใบหลิวในสายลม

พักผ่อน

*ช่วงเวลาสั้นๆ
หลบมารดน้ำให้หัวใจ
รินลมหายใจแผ่วช้า
มองยามเช้าเคลื่อนไหว
มองแดดสายพยับน้ำ
มองสายธารกะพริบเล่น
มองสายลมวนตามฤดูกาล
มองความผันแปรและเป็นไป
ช่วงเวลาสั้นๆ
รินลมหายใจแผ่วช้า

กวีกระวาด/สร้อยแก้ว คำมาลา

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

น้ำลอดใต้ทราย

*งามเหมือนดวงดาว สุกสกาวอยู่ในฝากฟ้า
คือเพชรดวงตา ส่องศรัทธาให้แรงให้หวัง
จะอยู่แห่งไหน ไม่เคยหันห่าง
ส่องทางสร้างฝัน ให้กันเรื่อยมา
*งามเหมือนตาทราย เปล่งประกายจับใจจับตา
เลือนสลัวมัวพร่า น้ำหยาดจากตากลบแล้วแววดาว
เจ้าโศกกรรแสง ด้วยแรงใดเล่า
เปลี่ยวเหงา แสงดาวลบเลือน
*ความรักคือพลัง สร้างความฝันใฝ่ไม่ร้างราเลือน
เพียงหยาดน้ำตาเตือน ใจเอ๋ยไม่เคยแพ้พ่าย
จะคอยเช็ดน้ำตาให้ ร่วมเรียงเคียงไหล่ฝ่าฟัน
ฝ่าฝัน มั่นใจ ว่าใจดวงนี้ไม่ยอมจำนน
*ภูผากำแพง มิอาจทานแรงแหล่งธารหลากไหล
ยังลอดใต้ทราย หลากรวมไหลสาดสายสู่ชล
ยิ่งกักยิ่งกัน ยิ่งทานยิ่งทน
ถั่งท้น โหมสายชล สายชัย ฯ

กวีนิพนธ์ ของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์